เมื่อพูดถึงแผนที่และงานด้านภูมิศาสตร์ สิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ คือ มาตราส่วน (Scale) ซึ่งเป็นตัวเลขที่บอกความสัมพันธ์ระหว่างระยะทางบนแผนที่กับระยะทางจริงบนพื้นโลก มาตราส่วนเหล่านี้มักแสดงในรูปแบบ 1:N โดยที่ 1 แทนหน่วยวัดบนแผนที่ และ N แทนจำนวนหน่วยเดียวกันนั้นในโลกจริง มาตราส่วนที่นิยมใช้กันทั่วไปมีหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือ 1:50,000 และ 1:200,000 ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าตัวเลขเหล่านี้แตกต่างกันอย่างไร และมีความสำคัญต่องานที่ใช้แผนที่อย่างไรบ้าง
ทำความเข้าใจกับ “มาตราส่วน” บนแผนที่
ก่อนอื่น มาทบทวนความหมายของมาตราส่วนกันสักเล็กน้อย มาตราส่วน (Scale) หมายถึง ระยะทาง 1 หน่วยบนแผนที่ เท่ากับระยะทางกี่หน่วยบนพื้นโลกจริง เช่น มาตราส่วน 1:50,000 หมายความว่า ระยะทาง 1 เซนติเมตรบนแผนที่ จะเท่ากับระยะทางจริง 50,000 เซนติเมตร หรือ 500 เมตร (0.5 กิโลเมตร) บนพื้นโลก
ความแตกต่างระหว่าง 1:50,000 และ 1:200,000
เมื่อนำมาตราส่วนทั้งสองมาเปรียบเทียบกัน จะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจนดังนี้:
คุณสมบัติ | มาตราส่วน 1:50,000 | มาตราส่วน 1:200,000 |
ความละเอียด | ละเอียดกว่า เนื่องจากระยะทาง 1 หน่วยบนแผนที่แทนระยะทางจริงที่น้อยกว่า ทำให้สามารถแสดงรายละเอียดของพื้นที่ได้มาก เช่น ถนนสายรอง, อาคาร, ลำน้ำเล็กๆ, หรือภูมิประเทศที่มีความซับซ้อน | ละเอียดน้อยกว่า เนื่องจากระยะทาง 1 หน่วยบนแผนที่แทนระยะทางจริงที่มากกว่า ทำให้แสดงรายละเอียดได้น้อยลง เหมาะสำหรับการแสดงภาพรวมของพื้นที่กว้างๆ |
พื้นที่ที่แสดง | ครอบคลุมพื้นที่ขนาดเล็ก แต่มีความเฉพาะเจาะจงสูง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกในบริเวณจำกัด | ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการแสดงขอบเขตของภูมิภาค จังหวัด หรือพื้นที่กว้างๆ |
ขนาดตัวอักษรและสัญลักษณ์ | ใหญ่และอ่านง่ายกว่า เพราะพื้นที่จริงที่แสดงนั้นเล็ก ทำให้สามารถใส่ข้อมูลที่เป็นข้อความและสัญลักษณ์ได้ละเอียดและชัดเจน | เล็กกว่า อาจต้องย่อข้อมูลหรือสัญลักษณ์เพื่อให้พอดีกับพื้นที่ที่จำกัดบนแผนที่ ทำให้บางรายละเอียดอ่านยากขึ้น |
การใช้งาน | แผนที่รายละเอียดสูง (Large Scale Map) เช่น แผนที่เดินป่า, แผนที่สำหรับงานสำรวจภาคสนาม, แผนที่เขตแดน, แผนที่วางผังเมือง, หรือแผนที่นำทางในพื้นที่เฉพาะ | แผนที่ภาพรวม (Small Scale Map) เช่น แผนที่ประเทศไทย, แผนที่จังหวัด, แผนที่เส้นทางหลัก, แผนที่ภูมิประเทศแสดงภาพรวมขนาดใหญ่ |
การย่อส่วน | ย่อส่วนน้อยกว่า (หมายถึง รายละเอียดบนพื้นผิวโลกถูกย่อขนาดลงมาบนแผนที่น้อยกว่า) | ย่อส่วนมากกว่า (หมายถึง รายละเอียดบนพื้นผิวโลกถูกย่อขนาดลงมาบนแผนที่มากกว่า) |
สรุปง่ายๆ คือ:
- 1:50,000 เป็นแผนที่ที่มีมาตราส่วนใหญ่กว่า (Large Scale Map) หมายถึง ระยะทางจริงถูกย่อลงมาน้อยกว่า ทำให้แผนที่แสดงรายละเอียดได้มาก ครอบคลุมพื้นที่เล็ก
- 1:200,000 เป็นแผนที่ที่มีมาตราส่วนเล็กกว่า (Small Scale Map) หมายถึง ระยะทางจริงถูกย่อลงมามากกว่า ทำให้แผนที่แสดงรายละเอียดได้น้อย ครอบคลุมพื้นที่กว้าง
เลือกใช้ให้เหมาะสมกับงาน
การเลือกใช้มาตราส่วนแผนที่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน:
- หากต้องการรายละเอียดสูง เช่น การวางแผนก่อสร้าง การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ การเดินป่า หรือการนำทางในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคย ควรเลือกใช้แผนที่ มาตราส่วน 1:50,000 หรือละเอียดกว่านั้น
- หากต้องการดูภาพรวมของพื้นที่กว้างๆ การเดินทางระหว่างเมือง การวางแผนเส้นทางหลัก หรือการศึกษาภูมิประเทศในภาพรวม ควรเลือกใช้แผนที่ มาตราส่วน 1:200,000 หรือเล็กกว่านั้น
ความเข้าใจในความแตกต่างของมาตราส่วนแผนที่นี้ จะช่วยให้เราสามารถเลือกใช้แผนที่ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ข้อคิดที่ควรจำ
ยิ่งตัวเลขหลังเครื่องหมายโคลอน (:) น้อยลง (เช่น 50,000) มาตราส่วนของแผนที่ก็จะ ใหญ่ขึ้น และแสดงรายละเอียดได้ มากขึ้น แต่ครอบคลุมพื้นที่ น้อยลง ในทางกลับกัน ยิ่งตัวเลขหลังเครื่องหมายโคลอน (:) มากขึ้น (เช่น 200,000) มาตราส่วนของแผนที่ก็จะ เล็กลง และแสดงรายละเอียดได้ น้อยลง แต่ครอบคลุมพื้นที่ มากขึ้น การเลือกใช้มาตราส่วนของแผนที่จึงขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานเป็นสำคัญ หากต้องการความละเอียดเพื่อการนำทางในพื้นที่เล็กๆ แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 จะเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการดูภาพรวมของพื้นที่กว้างๆ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่านั่นเองครับ